52010915104g4

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555

ภาวะโลกร้อน กับ โรงเรียน



ผลพวงจากภาวะโลกร้อนยังเดินหน้าทำลายพื้นที่หนาวเย็นต่อไป โดยล่าสุดสหประชาชาติอาจยกชื่อ “ยอดเขาเอเวอเรสต์” ในเทือกเขาหิมาลัยเข้าไปอยู่ในบัญชี “อันตราย”


โครงการ “มิตรของโลก” หรือ “เฟรนด์ส ออฟ ดิเอิร์ธ” (Friends of the Earth) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อังกฤษ เปิดเผยว่า การละลายของหิมะ จนกลายเป็นกระแสธารน้ำแข็งบน “เอเวอเรสต์” ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ในเทือกเขาหิมาลัย นอกจากจะมากพอจนเกือบสร้างทะเลสาบหิมาลัยได้แล้ว อาจจะสร้างน้ำท่วมบ่าเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต และทำลายสิ่งแวดล้อมอันเป็นลักษณะเฉพาะของธรรมชาติแถบนั้น


อย่างไรก็ดี ทางกลุ่มมิตรโลกจะอ้อนวอนให้คณะกรรมการมรดกโลก ยูเนสโกแห่งสหประชาชาติ (U.N.'s World Heritage Committee) ในปารีส พร้อมด้วยนักปีนเขาผู้พิชิตยอดสูงสุดของเอเวอเรสต์ เช่น ไรน์โฮลด์ มาสเนอร์ (Reinhold Messner) ให้ช่วยกันสังเกตการณ์ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น


”ยอดเขาเอเวอเรสต์เป็นสัญลักษณ์อันทรงพลังแห่งธรรมชาติของโลก ไม่ใช่แค่เพียงในเนปาล แต่ถ้าเอเวอเรสต์ถูกทำร้ายด้วยภาวะโลกร้อน พวกเราก็จะเริ่มตระหนักทันทีว่านี่เป็นสถานการณ์ที่อันตรายต่อชีวิตเป็นอย่างยิ่ง” ปรากาช ชาร์มา (Prakash Sharma) ผู้อำนวยการโครงการมิตรของโลกในเนปาลเผย

สถานการณ์โลกร้อนกำลังหนักขึ้นทุกขณะ หลังจากมีปริมาณก๊าซต่างๆ แพร่เข้าสู่ชั้นบรรยากาศมากขึ้น โดยเฉพาะ “คาร์บอน ไดออกไซด์” ตัวการหลักในการทำร้ายสภาพภูมิอากาศทั่วโลก ซึ่งการละลายของธารน้ำแข็งเป็นสัญญาณแรกๆ ที่บอกแก่ชาวโลกว่ากาลอากาศเริ่มเปลี่ยน โดยอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ


ทางด้าน เพมบา ดอร์เจ เชอร์ปา (Pemba Dorje Sherpa) ผู้ซึ่งใช้เวลาน้อยที่สุดในการปีสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ เปิดเผยว่า หิมะและน้ำแข็งที่เกาะอยู่ตามแนวเขาลดน้อยลงทุกขณะ ซึ่งทำให้เอเวอเรสต์มีความงามทางธรรมชาติลดลง และถ้าสิ่งเหล่านี้หมดไป ก็จะไม่เหลืออะไรไว้ให้เด็กๆ ของเราอีกต่อไป

อ้างอิง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น